วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีเลือกกางเกงยีนส์ให้เหมาะกับตัวเอง

    
การเลือกกางเกงยีนส์(ในที่นี้จะเป็นยีนส์ผ้าดิบ)ให้เหมาะกับตัวเรา เพื่อที่เราก็จะสามารถใส่มันได้ทุกวันด้วยความรู้สึกมั่นใจ ซึ่งให้ผลที่ดีต่อมา ทั้งในเรื่องความสวยงามของกางเกงเมื่อเวลาผ่านไป หรือแม้แต่ความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป โดยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้


1. style และรูปแบบของกางเกง คือสิ่งแรกเลยที่ทุกคนที่เลือกที่จะซื้อกางเกงยีนส์ควรจะพิจารณาให้ดีโดยหลักการก็คือให้คิดก่อนว่าส่วนตัวแล้วเราชอบแต่งตัวแบบไหน และกางเกงยีนส์ที่มีรายละเอียดหรือลูกเล่นต่างๆเยอะ หรือแบบที่เรียบๆจะเข้ากับการแต่งตัวของเรามากกว่ากัน หลายๆครั้งที่เราอาจจะเคยเห็นคนอื่นๆใส่ยีนส์แบบต่างๆแล้วดูเท่ห์ หรือการติดตามกระแสแฟชั่นของคนหมู่มาก แต่ท้ายที่สุดแล้วแล้วกางเกงบางตัวอาจจะดูดีเมื่ออยู่บนตัวคนๆนั้นหรือเข้ากับสไตล์การแต่งตัวบางรูปแบบ แต่ไม่เข้ากับตัวเราก็เป็นได้

2. ทรงของกางเกง เมื่อเราเลือกรูปแบบของกางเกงยีนส์ที่เข้ากับตัวเราได้แล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมา ก็คือ ทรงของกางเกง เนื่องจากถ้าเราเลือกทรงของกางเกงได้เข้ากับแนวของเรา และรูปร่างของเราแล้ว จะทำให้เรามีความมั่นใจ และอยากที่จะใส่กางเกงตัวนั้นทุกวัน(ซึ่งเป็นผลดีกับคนที่ต้องการจะใส่ให้กางเกงยีนส์เฟดนานๆจนสวย) โดยทรงของกางเกงยีนส์นั้นมีมากมายหลากหลายทรง สิ่งที่ต้องทำก็คือ เลือกทรงที่เข้ากับตัวเราจริงๆ และเลือก size เพื่อให้ใส่ออกมาได้ตามทรงของกางเกงตัวนั้นๆ เช่น ถ้ากางเกงทรงที่เราเลือกเป็นทรงกระบอกเล็ก ก็อย่าพยายามลด size มากจนเกินไปเพื่อจะให้มันกลายเป็นทรง skinny เนื่องจากว่าจะทำให้สัดส่วนเวลาใส่ออกมาดูผิดเพี้ยนไป ต้นขาจะรัดแน่นมากๆ แต่ช่วงหัวเข่าและปลายขายังมีพื้นที่เหลือๆ หรือทรงของกางเกงยีนส์ตัวที่เลือกเป็นทรงกระบอกเล็กแต่ใส่เพิ่ม size จากเอวจริงของตัวเองเพียงเพราะจะหวังให้ใส่ออกมาเป็นกางเกงทรงกระบอกตรงซึ่งผลที่ได้จะกลายเป็นว่ากางเกงที่เราใส่นั้นเอวหลวมๆ ต้นขาเหลือๆ ดูย้อยๆในขณะที่ปลายขาดูเล็กไม่สมส่วนโดยหลักการพิจารณารูปร่างตัวเราเองว่าเหมาะกับกางเกงทรงไหนอย่างง่ายๆเลยก็คือ ถ้าคุณเป็นคนขาเล็กทั้งต้นขาลงมาจนถึงข้อเท้า ส่วนมากแล้วคุณจะใส่กางเกงทรงเล็กๆไม่ว่าจะเป็นทรง skinny ไปจนถึงกระบอกที่ไม่ใหญ่มากได้สวย และไม่ค่อยมีปัญหามากนักในการเลือก size กางเกงยีนส์ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีต้นขาใหญ่ แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงกางเกงที่ทรงเล็กมาก

3. ผ้า Denim ที่ใช้ตัดเย็บกางเกงยีนส์ สิ่งที่สามารถแสดงความเป็นตัวตนของเรานั้นนอกเหนือไปจากทรงของกางเกงแล้วก็เห็นจะเป็นผ้าที่นำมาใช้ตัดกางเกงยีนส์นี่ล่ะ สิ่งที่เราควรพิจารณาเพิ่มขึ้นนอกจากสีของผ้าที่เราชอบแล้ว ก็ยังควรคำนึงถึงเนื้อผ้าด้วย เนื่องจากกางเกงยีนส์ผ้าดิบแต่ละตัวนั้นจะมีความหนาแน่น ของผ้าที่ต่างกันออกไป โดยในวงการยีนส์จะนับกันเป็นหน่วย oz. หลายๆคนมักจะมีความเข้าใจว่ากางเกงยีนส์ที่จำนวน oz. ของผ้านั้นยิ่งเยอะ ยิ่งดี ยิ่งเฟดสวย แต่ในความจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ความหนาแน่นของผ้ากางเกงยีนส์นั้นจะส่งผลหลักๆอยู่ 2 ข้อ 
   -1. คือเรื่องความทนทานของตัวกางเกงที่จะมากขึ้นตามความหนาแน่นของเนื้อผ้าด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกกับความสบายในการสวมใส่ (ยิ่งผ้าที่จำนวน oz. มากๆนี่จะมีน้ำหนักมาก และมีความหนามากๆ ลองคิดดูเวลาใส่ยีนส์ที่ oz. เยอะๆเวลาอากาศร้อนๆจะรู้สึกยังไง) 
   -2. ข้อที่สองจะเกี่ยวกับรูปแบบของรอยเฟด ที่ผ้าที่มีความหนานั้นจะมีรอยยับ ซึ่งจะพัฒนาเป็นรอยเฟดที่ใหญ่และเลือนๆ ในขณะที่กางเกงยีนส์ที่ผ้ามีความหนาน้อยๆ(11-14 oz.) จะมีรอยเฟดที่ค่อนข้างเล็กเรียว และคมกว่า ถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงการเอากระดาษบางๆกับกระดาษแข็งๆมาพับจะเห็นได้ว่ารอยพับออกมาต่างกัน 
ส่วนความสวยในการเฟดสีนั้นจะอยู่ที่การย้อมมากกว่า ซึ่งไม่เกี่ยวกับความหนาของผ้า

4. คุณภาพงานตัดเย็บ และรายละเอียดหรือลูกเล่นอื่นๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนทั่วไปจะสังเกตเห็นได้ยากกว่า สำหรับเรื่องวิธีการดูงานเย็บของกางเกงนั้น สิ่งที่สังเกตได้ง่ายที่สุดเลยก็คือ ความละเอียดของฝีเข็ม รวมถึงการออกแบบการเย็บ ที่บางแบรนด์เลือกที่จะมีการเย็บซ้อนเพิ่มแนวเข้าไปอีก เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวกางเกง และนอกเหนือไปจากงานเย็บแล้ว สิ่งอื่นๆที่ควรพิจารณาก็คือรายละเอียดลูกเล่นต่างๆ บนตัวกางเกงไม่ว่าจะเป็นหมุด ซิป กระดุม ป้ายหนัง หรือแม้แต่ผ้าที่นำมาใช้ทำกระเป๋าด้านใน