วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

ทำไมนาฬิกาข้อมือบางยี่ห้อมีราคาแพงมากๆ

Rolex Daytona Rainbow  ราคาประมาณ 70,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท)
นาฬิกาข้อมือนั้นนอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ใช้บอกเวลาแล้ว มันยังเป็นเครื่องประดับ และประกอบไปด้วยศิลปะมากมายอีกด้วย แต่เราก็อาจจะสงสัยใช่ไหมว่าทำไมนาฬิกาบางยี่ห้อนั้นราคามันแพงมากทั้งๆที่มันก็บอกเวลาได้ไม่ต่างกับที่ซื้อเรือนละไม่กี่ร้อย อย่างเช่น นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Rolex หรืออีกยี่ห้อคือ Patek Philippe ที่ราคารุ่นที่ถูกที่สุดนั้นมีราคาเป็นเลข 6 หลัก!!! 


ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่านาฬิกาที่มันแสนแพงแบบนี้มันมีดียังไงบ้าง


1. ต้นกำเนิดของ Brand - จุดที่กำหนดราคา คือ Brand ยี่ห้อที่มีประวัติยาวนาน และมีชื่อเสียงมาก ก็สามารถที่จะตั้งราคาสูงๆได้

2. วัสดุที่ใช้ทำนาฬิกานั้นมีราคาสูง -  นาฬิกาที่มีราคาแพงๆนั้นอาจจะมีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง หรือมีความพิเศษต่างๆในการผลิตอย่างเช่น ทอง platinum เพชร หรือ อัญมณีล้ำค่า อื่นๆ ซึ่งก็ไม่แปลกที่นาฬิกาเรือนนั้นจะมีราคาแพง

ในส่วนนี้ขอยกตัวอย่างนาฬิกายี่ห้อ Rolex ส่วนที่สายตัวเรือนทำจาก Stainless steel 904L ซึ่งต่างจากนาฬิกาส่วนใหญ่จะใช้ 316L แต่ Rolex เลือกใช้ 904L ซึ่งทั้งคู่เป็น Austenitic Steel หมายความว่า จะต้องมีส่วนผสมของคาร์บอนไม่เกิน 0.15 % และมีโครเมียมไม่น้อยกว่า 16% และจะต้องมีส่วนผสมของ nikle ด้วย ( 316L มีโครเมียม 18 %และ นิเกิล 8 % ส่วน 904L จะมีนิเกิลสูงกว่าเล็กน้อยซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่เกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่า) คุณสมบัติไม่เป็นแม่เหล็กและทนต่อการกัดกร่อนสูง
คุณสมบัติของทั้งคู่แทบจะไม่ต่างกัน แม้ว่า 904L จะทนต่อการกัดกร่อนของกรดได้ดีกว่า (ซึ่งในสภาพความเป็นจริงโอกาสแทบจะไม่เกิด) แต่ Rolex ก็คือ Rolex ที่ต้องเลือกใช้ของคุณภาพสูงกว่า(แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มีต้นทุนสูงกว่าถึง 3 เท่า) ซึ่งคนอื่นมองว่าไม่คุ้ม ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไม Rolex ถึงมีราคาแพง

3. นาฬิกาผลิตออกมาเป็นจำนวนน้อย - การผลิตของออกมาจำนวนน้อยๆนั้นก็ทำให้ราคาสูงเช่นกัน เนื่องจากเวลาผลิตชิ้นส่วนต่างๆนั้น ถ้าเป็นการผลิตจากโรงงานทีละมากๆก็จะยิ่งทำให้มีราคาถูก แต่ถ้าผลิตทีละน้อยๆ ก็จะทำให้มีราคาสูงที่เกิดจากต้นทุนกระบวนการผลิตชิ้นส่วนทีละน้อยๆ ของโรงงาน และเนื่องจากว่าของที่ผลิตนั้นมีจำนวนน้อยทำให้ของชิ้นนั้นกลายเป็นของหายาก ทำให้มีอุปสงค์ อุปทานเกิดขึ้น อย่างเช่นนาฬิกาที่ผลิตมาแค่ 100 เรือนในโลก กับมีเป็นแสนเรือน ราคาก็ย่อมต่างกัน

4. นาฬิกาบางรุ่นต้องใช้ฝีมือในการทำเป็นอย่างมาก - นาฬิกาบางรุ่นนั้นจะมีราคาสูงมาก เนื่องจากปีนึงผลิตได้ไม่กี่เรือน แต่ไม่ใช่เพราะไม่อยากผลิตเยอะๆ แต่เพราะว่าการผลิตนาฬิกาแต่ละเรือนนั้นมีขึ้นตอนการผลิตที่ต้องใช้ความประณีตมากๆ อย่างเช่น การแกะสลักลายบนตัวเรือนนาฬิกา การฝังอัญมณี การประกอบกลไกลของนาฬิกาด้วยมือ เป็นต้น ทำให้นาฬิกาเรือนนั้นมีราคาหลายล้านบาทได้

5. นาฬิกาที่มีกลไกสลับซับซ้อนมาก - นาฬิกาบางรุ่นที่บอกสามารถบอก วันเดือนปี ข้างขึ้นข้างแรม ตีระฆังบอกเวลา ได้ราคาก็จะสูงมากๆ

ต่อไปเราจะมาดูนาฬิกาตัวอย่างกันว่าทำไมราคาถึงแพงมากขนาดนี้ ซึ่งนาฬิกายี่ห้อนี้คือ  Patek Philippe รุ่น Grandmaster Chime Ref. 5175 ซึ่งมีราคาสูงถึง 2,500,000 USD แปลงเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 82 ล้านบาท!!! ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีระบบซับซ้อนมากที่สุดเรือนหนึ่งที่ทางบริษัทเคยผลิตขึ้นมา โดยตัวเรือนประกอบด้วยชิ้นส่วนมากถึง 1366 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยตัวเรือนที่ทำจากโรสโกลด์สลักมือที่ต้องใช้เวลาสลักถึง 4 ปี 
 Patek Philippe รุ่น Grandmaster Chime Ref. 5175
เรามาดูคลิปวีดีโอการประกอบนาฬิการุ่นนี้กันว่ามีความประณิตในการประกอบขนาดไหน




 นอกจากนี้ถึงแม้ว่านาฬิกาบางรุ่นนั้นอาจจะแพงเกินไปในสายตาหลายๆคน แต่นาฬิกาเหล่านี้ล้วนมีคุณภาพที่สูงมากๆ ซื้อมาแล้วสามารถใส่ได้นานถึง 10-20 ปี เรียกได้ว่าใส่ยันรุ่นลูกรุ่นหลานเลย ถ้าไม่เบื่อรูปร่างของมันแล้วเปลี่ยนไปซื้อของใหม่ซะก่อน ซึ่งถ้าใส่นานถึง 20 ปีจริงๆ เฉลี่ยๆแล้วราคาของนาฬิกานั้นจะตกอยู่ที่เดือนละประมาณไม่กี่พัน แถมนาฬิกาบางรุ่นนั้นถ้าเลือกดีๆ หรือเป็นรุ่นที่ผลิตมาจำนวนจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปนานๆก็ยังสามารถที่จะขายต่อเป็นของมือสองได้ราคาดีอีกด้วย หรืออาจจะแพงกว่าราคาจริงๆที่ขายในสมัยนั้นก็เป็นไปได้